แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดน เวสต์แฮม บุกสอย 2-0 ทำสถิติแพ้เกมลีกฤดูกาลนี้ถึง 17 นัด รวมถึงแพ้ในบ้าน 9 เกมเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ส่อง 5 ประเด็นร้อนหลังเกมที่แฟนผีต้องส่ายหัว
แมนยู แพ้ เวสต์แฮม
1. ผีปรับครึ่งทีมยังมีกัปตัน บรูโน่
แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับโผ 11 คนแรกรวมหกชีวิตหลังขยี้ แอธเลติก บิลเบา เมื่อกลางสัปดาห์ทะลุเข้าชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปา ลีก เป็นผลสำเร็จ
อโมริม ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสยังส่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมลงสนามตามที่เผยกับสื่อ และพัก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อย่างที่ให้สัมภาษณ์เช่นกัน
จากการวางหมากดังกล่าวทำให้ อาหมัด ดิยัลโล่ กลับมาออกสตาร์ตเป็นเกมแรกนับตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.โดยมี แฮร์รี่ อามาสส์ รับภาระวิงแบ็คอีกฝั่ง
ขณะเดียวกัน อัลตาย บายินดีร์ ได้กลับมาเฝ้าเสาเช่นเดียวกับ เมสัน เมาท์ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในบ้านนัดแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
2. ค้อนไร้ ปาเกต้า คีย์แมนบุกถิ่นผี
แกรม พ็อตเตอร์ กุนซือทีม เวสต์แฮม จัดทัพบุกมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยไม่มี ลูคัส ปาเกต้า สตาร์ตัวกลั่นติดโผเดินทางมากับทีม
เทียบจากเกมเปิดรังไล่ตีเสมอ สเปอร์ส 1-1 เดอะ แฮมเมอร์ส โรเตชั่นทีมสามตำแหน่งโดย วลาดิเมียร์ คูฟาล ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง
นอกจากนี้ กีโด โรดริเกซ และ เจมส์ วอร์ด พราวส์ ได้ออกสตาร์ตเช่นกันแทนที่ เอเมอร์สัน , ปาเกต้า และ นิคลาส ฟืลล์ครุก
อย่างไรก็ดี คูฟาล เป็นหนึ่งในสี่ขุนพลที่สโมสรของกรุงลอนดอนประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันก่อนว่าจะพ้นไปจากทีมในซัมเมอร์นี้เนื่องจากหมดสัญญาเช่นเดียวกับ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ , อารอน เครสเวลล์ และ แดนนี่ อิงส์
3. ฮอยลุนด์ ขุนไม่ขึ้น
คงไม่ผิดจากความจริงมากนักถ้าจะบอกว่าหาก ลิเวอร์พูล มี ดาร์วิน นูนเญซ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มี ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นตัวละครที่ชวนให้น่าหัวร่อ
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ หงส์แดง และ ผีแดง พึ่งพาการสอยตาข่ายของกองหน้าตัวเป้าไม่ได้เลยและทั้งๆที่เกมแพ้ เวสต์แฮม คารัง ศูนย์หน้าทีมชาติ เดนมาร์ค จะมีโอกาสพังประตูแบบจะแจ้งสามครั้งเห็นจะได้ แต่เขาเปลี่ยนให้เป็นประตูไม่ได้เลยแม้แต่เม็ดเดียว
จากวันนั้นจนถึงวันนี้นับตั้งแต่ถูกดึงตัวมาจาก อตาลันต้า แทนที่ ฮอยลุนด์ จะพัฒนาฝีเท้าในการเช็กบิลให้น่าเกรงขามมากขึ้นกลับกลายเป็นว่ายิ่งเล่นเขาก็ยิ่งมีฟอร์มที่ตกต่ำดำดิ่งลงทุกที แม้กระทั่งเกมเฝ้าบ้านปะทะกับ เดอะ แฮมเมอร์ส ซึ่งรั้งอันดับ 17 ของตารางก่อนการดวลกัน เจ้าถิ่นยังกล้าๆแพ้แบบหมดสภาพกระทั่งโดนแซงอันดับตารางจนได้
และที่สำคัญ หลังจาก โจชัว เซิร์กซี่ บาดเจ็บจนหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดทั้งซีซั่นถือเป็นโอกาสที่ ฮอยลุนด์ จะได้โชว์ฟอร์มอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยคนเดียวเพื่อเรียกคะแนนให้กับตัวเองต่อการสร้างโอกาสได้รับใช้สโมสรต่อในซีซั่นหน้า
แต่จากที่เห็น สตาร์เดนิชไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เลยแม้แต่น้อย มันจึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ ผีแดง จะเลือกเก็บดาวยิงทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เอาไว้กับทีมต่อไปมากกว่าหัวหอกผมทองที่ส่อแววโดนขายทิ้งในซัมเมอร์นี้เพื่อเปิดทางให้กองหน้าคนใหม่ย้ายมาระเบิดตาข่ายแทนที่
4. แม็กไกวร์ ที่พึ่งยามยาก
นอกจาก กาเซมีโร่ แล้ว แม็กไกวร์ ที่เคยตกเป็นข่าวจ่อโดนลอยแพออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลายมาเป็นขุนพลคนสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยามนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยกันทั้งคู่
หลังกลับมาสำแดงฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม กองกลางแซมบ้าจึงได้รับการประคบประหงมจาก อโมริม มากเป็นพิเศษเช่นเดียวกับ แม็กไกวร์ เนื่องจากสภาพร่างกายของทั้งสองไม่อาจกรำศึกหนักแบบสองเกมต่อหนึ่งสัปดาห์อย่างต่อเนื่องได้ซึ่งทำให้นายใหญ่ชาวเมืองฝอยทองต้องจัดให้ทั้งสองได้พักแข้งพักขามากเป็นพิเศษ
สำหรับ แม็กไกวร์ แม้จะได้นั่งเป็นตัวสำรองเกมบู๊กับ เวสต์แฮม แต่สุดท้ายเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ที่ อโมริม ต้องใช้งานเขาหลัง เลนี่ โยโร่ บาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกเพื่อระวังเอาไว้ก่อนเกมชิงถ้วย ยูโรปา ลีก
และความจริงแม้ดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ จะมีตำแหน่งเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟโดยธรรมชาติ แต่หลายเกมหลัง อโมริม เลือกพึ่งการยิงประตูจากเขาเนื่องจากบรรดาตัวรุกของทีมกระซวกตาข่ายได้อย่างกระจุ๋มกระจิ๋ม อีกทั้ง แม็กไกวร์ มีลูกกลางอากาศที่เป็นทีเด็ดประจำตัวด้วยจึงทำให้หลายต่อหลายครั้งที่เขาถูกส่งลงเล่นในแดนบนให้หาโอกาสโขกทำประตู
อย่างเกมปะทะกับ เดอะ แฮมเมอร์ส แม็กไกวร์ แสดงพิษสงในลูกกลางอากาศได้เหมือนหลายๆนัดที่ผ่านมาโดยสตาร์เจ้าเวหาได้โขกลูกเตะมุมที่หวิดเป็นประตูสองหนด้วย แต่น่าเสียดายที่เชาช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาตัวรอดจากสถิติที่เลวร้ายไม่สำเร็จ
5. ซีซั่นที่ชวนขายหน้า
แม้ซีซั่นนี้จะยังไม่จบลง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าสร้างสถิติในทางลบเพิ่มขึ้นมากมายจนทำให้มันเป็นซีซั่นที่น่าอนาจที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ปีที่พวกเขาตกจากลีกสูงสุด
– แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกเป็นนัดที่ 17 แล้วซึ่งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ซีซั่น 1973/74 ที่พวกเขาแพ้ทั้งสิ้น 20 นัด และต้องตกจากดิวิชั่นหนึ่งเดิม
– แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คารังนัดที่ 9 ของซีซั่นซึ่งเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดเทียบเท่ากับซีซั่น 1930/31, 1933/34 และ 1962/63
-ถึงตอนนี้ อโมริม คุมทีม ผีแดง ชนะเกมลีกไม่ได้นานถึง 7 นัดติดต่อกันแล้ว (เสมอ 2 แพ้ 5) ซึ่งเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดเทียบเท่าในรายการนี้ของสโมสรเช่นเดียวกับเดือนก.ย-พ.ย.1992 ซึ่งพวกเขาไม่ชนะเกมลีกนาน 7 นัดเช่นกัน แต่เก็บแต้มได้มากกว่าจากผลงานเสมอ 5 แพ้ 2
-แมนฯ ยูไนเต็ด โดนยิงประตูก่อนในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซีซั่นนี้เป็นนัดที่ 12 แล้ว และมีแค่ เลสเตอร์ ทีมที่ตกชั้นไปแล้วทีมเดียวที่มีผลงานแย่กว่า (15 นัด) แถมเป็นสถิติใหม่ที่เลวร้ายที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยหลังจากพวกเขาเสียประตูเกมเหย้าให้ทีมเยือนก่อนรวม 11 นัดในซีซั่น 2023/24
– แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกนัดเหย้าต่อ เวสต์แฮม เป็นหนแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2006/07 ส่งผลให้ ขุนค้อน ยุติผลลัพธ์ไม่ชนะที่ โรงละครแห่งความฝัน นาน 16 นัดติดต่อกัน (เสมอ 3 แพ้ 13)
– หลังจาก เวสต์แฮม เฝ้าบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีกนัดแรกของซีซั่นนี้ส่งผลให้พวกเขากำราบ ผีแดง ได้ทั้งสองนัดในซีซั่นเดียวกันเป็นครั้งที่ห้าเช่นเดียวกับซีซั่น 1926/27 ,1928/29,1976/77 และ 2006/07
