เจาะลึกผลงานนักเตะ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2024/2025 ตั้งแต่ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ฟอร์มดร็อปสุด ไปจนถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ระเบิดฟอร์มคว้าคะแนนเฉลี่ยเต็ม 10 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเหลือเกมในมือถึง 4 นัด
จัดอันดับผลงานนักเตะลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2024/25 : จากแย่สุดถึงยอดเยี่ยม ซาลาห์ฟอร์มท็อป 10 เต็ม
เจาะลึกผลงานนักเตะ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2024/2025 ตั้งแต่ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ฟอร์มดร็อปสุด ไปจนถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ระเบิดฟอร์มคว้าคะแนนเฉลี่ยเต็ม 10 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเหลือเกมในมือถึง 4 นัด
อาร์เซน่อล จัดอันดับผลงานนักเตะลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2024/25 : จากแย่สุดถึงยอดเยี่ยม ซาลาห์ฟอร์มท็อป 10 เต็ม
แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจตลอดทั้งฤดูกาล 2024/2025 ซึ่งนำไปสู่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กระนั้นนักเตะแต่ละคนทำผลงานได้ดีแค่ไหนต้องมาพิจารณากัน
ทัพ “หงส์แดง” ทำผลงานได้เกินความคาดหมายตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่แล้ว โดย อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ ซึ่งเข้ามารับงานกุมบังเหียนแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สามารถนำสโมสรคว้าแชมป์ทั้งๆ ที่ยังเหลือเกม 4 แมตช์
นี่คือฤดูกาลที่สุดยอดสำหรับนักเตะ “เดอะ เร้ดส์” หลายคน แต่ในขณะเดียวกันมีผู้เล่นบางคนที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง และงานนี้ This Is Anfield จัดอันดับผู้เล่นของทีมโดยใช้คะแนนเฉลี่ยจากการมีส่วนร่วมกับผลงานของสโมสร ซึ่งเริ่มจากแย่สุดไปถึงดีที่สุด
***(เฉพาะนักเตะต้องลงเล่นอย่างน้อย 10 เกม)***
22. ดาร์วิน นูนเญซ
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 17 (30)
อัตราเฉลี่ย : 5.2
น่าเสียดายที่คะแนนเฉลี่ยต่ำสุดก็คือ ดาร์วิน นูนเญซ โดย กองหน้าชาวอุรุกวัย แสดงผลงานได้น่าผิดหวังภายใต้สีเสื้อลิเวอร์พูลจนถึงจุดที่ว่าได้เวลาที่สโมสรต้องขายเขาทิ้งได้แล้ว ฟอร์มที่โดดเด่นในเกมซัดสองประตูกับ เบรนท์ฟอร์ด มันน่าประทับใจมาก แต่การที่เขาทำผิดพลาดมากมาย และเล่นไม่เข้ากับแท็กติกของ โค้ชอาร์เน่อ มันจึงยากที่จะยอมรับได้ ที่สำคัญการซัดเพียง 1 ประตูจาก 20 เกมหลังสุด ถือว่าน่าผิดหวังสิ้นดี
21. เฟเดริโก้ เคียซ่า
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 4 (10)
อัตราเฉลี่ย : 5.4
เป็นการเซ็นสัญญาที่สุดเซอร์ไพรส์ของ ลิเวอร์พูล ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยสถิติเรื่องความฟิตของ เคียซ่า ทำให้ทีมเสี่ยงมากๆ ในการคว้าเขามาร่วมทีม แต่ถึงแม้นักเตะจะมีความมุ่งมั่น แต่แข้งชาวอิตาเลียนไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจได้เลย โดยเขาลงเล่นตัวจริงเกมลีกแค่นัดเดียวเท่านั้น การเก็บ เคียซ่า เอาไว้ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย หากมองในแง่ของทีมสปิริต แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากสโมสรจะขายเขาหลังใช้งานเพียงซีซั่นเดียว
= 19. จาเรลล์ ควอนซาห์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 13 (12)
อัตราเฉลี่ย : 6
หลังจากได้ก้าวขึ้นมาลงเล่นชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2023/2024 แต่ซีซั่นที่ผ่านมา จาเรลล์ ควอนซาห์ ต้องเจอกับความยากลำบาก โดยได้เป็นตัวจริงแต่โดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเกมกับ อิปสวิช ทาวน์ โอกาสที่เฉิดฉายของเขาค่อยๆ จางลงไป แต่ยังถือเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม เพราะนักเตะเพิ่งอายุ 22 ปี และยังมีโอกาสพัฒนาได้อีกเยอะ
= 19. ดีโอโก้ โชต้า
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 22 (15)
อัตราเฉลี่ย : 6
อาการบาดเจ็บมีส่วนสำคัญกับผลงานของ ดีโอโก้ โชต้า โดยเขามีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการจบสกอร์ช่วงระหว่างซีซั่น อย่างน้อยก็ประตูชัยที่ชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่แอนฟิลด์ แต่นักเตะจบซีซั่นด้วยการซัดไปเพียง 9 ประตู แม้ สตาร์ชาวโปรตุกีส จะเป็นตัวจบสกอร์โดยธรรมชาติ แต่ ลิเวอร์พูล ต้องการแข้งหมายเลข 9 ที่สมบูรณ์แบบมากกว่านี้ เพื่อยกระดับผลงานของทีม
= 16. โจ โกเมซ
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 11 (6)
อัตราเฉลี่ย : 6.2
ถ้า โจ โกเมซ ลงเล่นเกมสุดท้ายกับ ลิเวอร์พูล เขาคือนักเตะที่รักใช้สโมสรยาวนานที่สุดที่ควรได้รับการจดจำในฐานะผู้เล่นที่ซื่อสัตย์กับทีม โดย ดาวเตะชาวอังกฤษ ไม่ค่อยได้ลงสนามเมื่อซีซั่น 2024/2025 เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ และถ้าเขาอยู่กับทีม เขาจะได้รับการยอมรับในฐานะผู้เล่นสำคัญ แม้ โกเมซ จะไม่ได้รับความสนใจเหมือนแข้งคนอื่น แต่เขาพร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อ ลิเวอร์พูล เสมอ
= 16. คอสตาส ซิมิกาส
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 18 (11)
อัตราเฉลี่ย : 6.2
ซัมเมอร์นี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับ คอสตาส ซิมิกาส ที่จะย้ายทีม หลังนักเตะไม่สามารถแสดงผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา ช่วงที่ผ่านมามีบางครั้งที่ “กรีก สเกาเซอร์” รู้สึกเหมือนเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่นักเตะไม่สามารถรักษาระดับฟอร์มการเล่นได้ นั่นทำให้เขาไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และ “หงส์แดง” จำเป็นต้องหาแบ็กซ้ายคนใหม่มาเสริมแกร่ง
= 16. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 6 (22)
อัตราเฉลี่ย : 6.2
แฟนหงส์แดงอาจจะได้เห็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ในสีเสื้อลิเวอร์พูลเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ หากพูดแบบแฟร์ๆ ดาวเตะวัย 22 ปี สร้างผลงานได้น่าประทับใจทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนาม เขาเป็นคนยิงประตูชัยในเกมชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก แต่เขากลับไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวหลักเนื่องจากทีมมีแผงมิดฟิลด์ที่แข็งแกร่งมากๆ เอลเลียตต์ มักลงมาเปลี่ยนเกมในฐานะตัวสำรอง แต่ซีซั่นที่ผ่านมาความเร็วและพลังของเขาไม่โดดเด่นในยุคโค้ชอาร์เน่อ
15. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 38 (7)
อัตราเฉลี่ย : 6.8
หลังจาก 7 ฤดูกาลที่สร้างผลงานชั้นยอดให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอดซีซั่น 2024/2025 แม้นักเตะไม่มีปัญหาบาดเจ็บก็ตาม โดย สตาร์ชาวสกอตแลนด์ มีหลายแมตช์ที่ดีเยี่ยม แต่เจ้าตัวฟอร์มดร็อปลงไปเยอะโดยเฉพาะเรื่องความเร็ว และการเล่นที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทีมต้องหาแบ็กซ้ายคนใหม่ แน่นอนว่า “ร็อบโบ้” ยังคงมีอนาคตกับ “หงส์แดง” แต่อาจจะเป็นเพียงกองหนุนให้ มิลอส เคอร์เคซ ว่าที่แข้งใหม่ของทีม
= 13. วาตารุ เอ็นโด
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 7 (25)
อัตราเฉลี่ย : 7
ลิเวอร์พูล มักจะมีฮีโร่ปิดทองหลังพระอยู่เสมอ และ วาตารุ เอ็นโด คือคนๆ นั้นในเวลานี้ โดย กองกลางชาวญี่ปุ่น ลงตัวจริงในลีกเพียงเกมเดียวเท่านั้น แต่เขาได้ลงสนามในฐานะตัวสำรอง 19 เกม ซึ่งทุกครั้งที่ลงสนามเจ้าตัวมักใช้ประสบการณ์ในการรับมือกับคู่แข่ง และช่วยปิดเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับฉายาว่า “Endo Endgame” ซึ่งนี่แหละนักเตะในฝันของกุนซือทุกคน
= 13. เคอร์ติส โจนส์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 27 (19)
อัตราเฉลี่ย : 7
เคอร์ติส โจนส์ ยังคงเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้เขามีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ดาวเตะวัย 24 ปีอาจจะเจอเรื่องยากในการลงตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีนักเตะ “หงส์แดง” คนไหนที่ครองบอลในพื้นที่สุดท้ายมากกว่าเขาตลอด 90 นาที โจนส์ แสดงให้เห็นว่าเขารักแฟนบอลหงส์แดงมากแค่ไหน ตอนที่ อับดูลาย ดูกูเร่ เยาะเย้ยสาวก “เดอะ ค็อป” หลังจบเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ค
= 11. คอเนอร์ แบรดลี่ย์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 14 (15)
อัตราเฉลี่ย : 7.2
นี่เป็นฤดูกาลที่ดีมากสำหรับ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ โดยเฉพาะจังหวะพุ่งเสียบใส่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ เรอัล มาดริด แน่นอนว่าเขาเป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กระนั้นยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า สตาร์ชาวไอร์แลนด์เหนือ พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กขวาหรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความฟิตที่แสดงให้เห็นบ่อยครั้งเมื่อซีซั่นล่าสุด
= 11. เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 37 (7)
อัตราเฉลี่ย : 7.2
ภารกิจของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ ลิเวอร์พูล สิ้นสุดลงแล้ว หลังนักเตะตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย ดาวเตะวัย 26 ปี สร้างผลงานได้ดีเยี่ยมในฤดูกาลสุดท้ายกับสโมสร โดยเขาเล่นเกมรับได้ดีกว่าสมัยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุมบังเหียน และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประตูถึง 11 ลูกตลอดทั้งซีซั่น แต่ผลงานที่น่าผิดหวังในเกมเสมอ แมนยู ที่แอนฟิลด์ ทำให้ค่าเฉลี่ยร่วงลงไปเยอะ
10. โดมินิค โซโบซไล
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 40 (9)
อัตราเฉลี่ย : 7.8
“โซโบ” อาจจะไม่ใช้นักเตะที่สมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีอะไรต้องสงสัยว่านี่คือฤดูกาลที่แข็งแกร่งของ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส โดยนักเตะเต็มไปด้วยพละกำลัง และมีประสิทธิภาพในการเล่นเกมรุก ซึ่งเขาซัดไป 6 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ในลีกถือว่าผลงานน่าประทับใจ นอกจากนี้นักเตะยังมีส่วนในการเล่นเกมรับ ดังนั้นเขายังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมแน่นอน
9. โกดี้ คักโป
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 32 (17)
อัตราเฉลี่ย : 8
โกดี้ คักโป เป็นแนวรุกที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของทีมในฤดูกาลล่าสุด โดยนักเตะระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการซัดไป 18 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ นอกจากนี้เขายังมักยิงประตูสำคัญให้ทีมรวมทั้งจังหวะจบสกอร์ในเกมชนะ แมนซิตี้, ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ และเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งสามเกมเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ แม้มีข่าวลือว่า บาเยิร์น มิวนิค อยากได้ตัวไปร่วมทีม แต่ “เดอะ เร้ดส์” ยังต้องการเก็บ ดาวเตะชาวดัตช์ เอาไว้ต่อไป
= 6. ควีวิน เคลเลเฮอร์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 20 (0)
อัตราเฉลี่ย : 8.2
ควีวิน เคลเลเฮอร์ ถือเป็นตัวเลือกมือ 2 ที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล โดยเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยมเวลาที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ไม่สามารถลงสนามได้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวเคยทำผิดพลาดมหันต์ในเกมเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค แต่จังหวะเซฟจุดโทษจาก เอ็มบัปเป้ ถือเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษของเจ้าตัว แต่ตอนนี้แฟนหงส์คงไม่ได้เห็นเขาในสีเสื้อลิเวอร์พูลอีกแล้ว เพราะเจ้าตัวอำลาทีมไปเล่นให้ เบรนท์ฟอร์ด เรียบร้อย
= 6. อิบราฮิม่า โกนาเต้
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 39 (3)
อัตราเฉลี่ย : 8.2
โกนาเต้ เอาชนะอาการบาดเจ็บได้สำเร็จ โดยเขาได้โอกาสลงเล่นตัวจริง 30 เกมจากทั้งหมด 39 แมตช์ที่เล่นให้ต้นสังกัดฤดูกาลล่าสุด โดยเขาสามารถยกระดับฟอร์มการเล่นจนเป็นเซนเตอร์แบ็กที่คู่ควรกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โดยเฉพาะความแข็งแกร่ง, ความเร็ว และพละกำลังของ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส มีครบถ้วนสมบูรณ์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม ที่สำคัญสถิติของเขาโดดเด่นมากๆ อาทิเช่นการสกัดบอลเด็ดขาด 4.4 ต่อการเล่น 90 นาที ซึ่งมีแค่คนเดียวที่เหนือกว่านั่นก็คือ กัปตันฟาน ไดค์
= 6. หลุยส์ ดิอาซ
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 38 (12)
อัตราเฉลี่ย : 8.2
หลุยส์ ดิอาซ เล่นได้อย่างโดดเด่นมากๆ และผลงานของเขามีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีม โดย สตาร์ชาวโคลอมเบีย อาจมีช่วงฟอร์มหลุดไปบ้าง แต่เขายังสามารถซัดไปถึง 17 ประตูตลอดทุกรายการ งานนี้บอร์ดบริหารของ “หงส์แดง” ต้องทำงานหนักพอสมควรในการเก็บเขาเอาไว้ เพราะเจ้าตัวกำลังได้รับความสนใจจาก บาร์เซโลน่า ที่ต้องการนักเตะไปร่วมทัพอย่างมากในช่วงซัมเมอร์นี้
= 4. อลีสซง เบ็คเกอร์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 35 (0)
อัตราเฉลี่ย : 9
จากผู้รักษาประตูที่รักษาฟอร์มได้ตามมาตรฐาน ปัจจุบัน อลีสซง มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนบ่อยๆ อย่างไรก็ตามเขายังคงสร้างผลงานเหนียวหนึบทุกครั้งที่สามารถลงเฝ้าเสาได้ ฟอร์มของเจ้าตัวในเกมเยือน “เปแอสเช” ยังคงเป็นที่จดจำอย่างมาก และแน่นอนว่าเจ้าตัวได้รับการเชิดชูในฐานะโกลที่เหนียวที่สุดในดลกช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และยังเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของลิเวอร์พูล แม้ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ จะกลับมาร่วมทีมหลังเสร็จสิ้นภารกิจยืมตัวกับ บาเลนเซีย แต่นายด่านชาวบราซิเลียนยังคงเป็นมือ 1 ในใจของ อาร์เน่อ เหมือนเดิม
= 4. ไรอัน กราเฟนแบร์ก
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 49 (0)
อัตราเฉลี่ย : 9
เมื่อฤดูกาลก่อน ไรอัน กราเฟนแบร์ก เป็นนักเตะที่มีอัตราเฉลี่ยต่ำสุดเป็นอันดับ 2 แต่ซีซั่นล่าสุดทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง โดย ดาวเตะชาวดัตช์ วัย 22 ปี โดนปรับให้เล่นกองกลางตัวรับ และเขาสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้จนกลายเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้เลย นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความฉลาดของ อาร์เน่อ ในการขัดเกลา กราเฟนแบร์ก จากหินที่ดูไร้ค่ากลายเป็นอัญมณีที่เลอค่าอมตะ
3. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 40 (9)
อัตราเฉลี่ย : 9.2
หากจะมองหากองกลางที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2024/2025 งานนี้ต้องยกให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แน่นอน เพราะเขามีบทบาทสำคัญทั้งการเล่นเกมรุก และรับของทีม นอกจากนี้ยังยิงประตูสำคัญหลายลูกด้วย โดย จอมทัพชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งเล่นให้ทีมเป็นซีซั่นที่สอง คือตัวเลือกแรกในแผงมิดฟิลด์ อย่างไรก็ตามทีมขาด “แม็กก้า” นับตั้งแต่ที่คว้าแชมป์ลีกได้แล้ว เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ แน่นอนว่าค่าเฉลี่ยของเจ้าตัวคงดีกว่านี้หากได้ลงเล่นจนกระทั่งจบซีซั่น
2. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 49 (0)
อัตราเฉลี่ย : 9.4
ก่อนหน้านี้แฟนบอลลิเวอร์พูล เคยรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าของ ฟาน ไดค์ ว่ามันจะส่งผลกระทบกับอาชีพของเขา แต่นักเตะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าปัญหาดังกล่าวไม่สามารถทำอะไรเขาได้ โดย กัปตันทีมชาวดัตช์ ก้าวขึ้นมาเป็นเซนเตอร์แบ็กที่แกร่งที่สุดในโลก และเป็นผู้เล่นที่ “เดอะ เร้ดส์” ขาดไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ ฟาน ไดค์ เป็นคนชูโทรฟี่แชมป์ลีกในฐานะกัปตันทีม และสาวก “เดอะ ค็อป” เชื่อว่าเขาจะเป็นหนึ่งในนักเตะ และกัปตันทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร
1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ตัวจริง (ตัวสำรอง) : 50 (2)
อัตราเฉลี่ย : 10
ซาลาห์ ยังคงเป็นเบอร์ 1 ของ ลิเวอร์พูล อย่างไม่มีอะไรต้องสงสัย “คิงโม” สร้างผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นหนึ่งในตำนานในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยเขาครองสถิติมีส่วนร่วมในการทำประตูต่อซีซั่น (47 ลูก) เทียบเท่า อลัน เชียเรอร์ และ แอนดี้ โคล นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังซัดไป 29 ประตูในลีก และได้ลงตัวจริงทุกเกมในพรีเมียร์ลีก ผลงานชั้นยอดของเขาทำให้ตอนนี้เจ้าตัวได้รับการเชิดชูว่าเป็นนักเตะยอดเยี่ยมตลอดกาลของ “หงส์แดง” หลังซัดไป 34 ประตูกับ 23 แอสซิสต์ตลอดซีซั่น 2024/2025