เชลซี แมนยู นำโด่ง ตารางรายจ่ายสุทธิทีมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล ขาย คูตินโญ่ เมื่อปี 2018

 เม็ดเงินจำนวนดังกล่าวเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ลิเวอร์พูล ได้นำไปใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เพราะพวกเขาสามารถผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018/2019 และ พรีเมียร์ลีก 2019/2020 ที่สำคัญ ฟาน ไดค์ และ อลีสซง ยังคงมีอิทธิพลกับนักเตะคนอื่นๆ ในทีมชุดปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนมือจาก คล็อปป์ เป็นโค้ชอาร์เน่อ สล็อต ซึ่งนำทีมคว้าแชมป์ลีกได้ทันทีในการคุมทัพซีซั่นแรก

  แม้เวลาจะผ่านมา 7 ปีนับตั้งแต่การขาย เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียน แต่ตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่า สโมสรเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัยได้ใช้ “คูตินโญ่ มันนี่” ไปหมดเรียบร้อยแล้ว ณ ตอนนี้  

 ถึงพวกเขาจะใช้เงินเยอะก็ตาม แต่ค่าใช้จ่ายสุทธิยังน้อยกว่า เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทั้งที่สองทีมนี้ใช้เงินจำนวนมหาศาลแต่กลับมีความสำเร็จในรูปแบบของถ้วยรางวัลน้อยกว่า ลิเวอร์พูล อย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 แม้กระทั่งการที่ “เดอะ เร้ดส์” ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร (อีกครั้ง) ในการเซ็นสัญญา ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พวกเขาก็ยังใช้จ่ายน้อยกว่าครึ่งหนึ่งกับสิ่งที่ เชลซี ลงทุนนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2018

 “สิงโตน้ำเงินคราม” ทำรายได้จากการขายนักเตะได้มากกว่า ลิเวอร์พูล โดยโกยเงินจากการปล่อยนักเตะไปมากกว่า 1,000 ล้านยูโร (ราว 39,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายสุทธิของเชลซี ก็ยังสูงกว่า ลิเวอร์พูล เกือบ 500 ล้านยูโร (ราว 19,500 ล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ แมนยูไนเต็ด สูงกว่า “หงส์แดง” กว่า 400 ล้านยูโร (15,600 ล้านบาท) เช่นกัน 

 ในกรณีที่ ลิเวอร์พูล อาจทำลายสถิติค่าตัวนักเตะของสโมสรอีกครั้ง หากตัดสินใจคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และถึงแม้จะใช้เงินจำนวนมากขนาดนั้น รายจ่ายสุทธิในการซื้อขายนักเตะตลอด 7 ฤดูกาลครึ่งที่ผ่านมา ก็ยังคงน้อยกว่า อาร์เซน่อล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์อยู่ดี

  สำหรับ 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 ที่นำมาอ้างอิงในครั้งนี้ อาจมีเพียง 11 สโมสรเท่านั้นที่อยู่ในลีกสูงสุดมาโดยตลอดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017/2018

 ซันเดอร์แลนด์ เป็นสโมสรเดียวเท่านั้นจากทั้งหมด 20 ทีมในพรีเมียร์ลีกที่ทำกำไรได้จากตลาดพ่อค้าแข้งนับตั้งแต่ปี 2018 ทั้งที่ทัพ “แมวดำ” ไม่ได้โลดแล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีตลอดช่วงเวลาดังกล่าว และในฤดูกาลหน้าพวกเขาหวนคืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง  หลังจากต้องระหกระเหินอยู่ในลีกล่างนานถึง 8 ปี

  สรุปภาพรวมการใช้จ่ายสุทธิของทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ตลาดพ่อค้าแข้งเดือนมกราคม ปี 2018 โดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ Transfermarkt

1.เชลซี

ค่าใช้จ่ายรวม: 2,163 ล้านยูโร (ราว 84,357 ล้านบาท)

รายรับรวม: 1,134 ล้านยูโร (ราว 44,226 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 1,003 ล้านยูโร (ราว 39,117 ล้านบาท)

2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ค่าใช้จ่ายรวม : 1,354 ล้านยูโร (ราว 52,806 ล้านบาท) 

รายรับรวม: 385 ล้านยูโร (ราว 15,015 ล้านบาท) 

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 969 ล้านยูโร (ราว 37,791 ล้านบาท)

3. สเปอร์ส  

ค่าใช้จ่ายรวม : 1,098 ล้านยูโร (ราว 42,822 ล้านบาท

รายรับรวม: 346 ล้านยูโร (ราว 1,3494 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 752 ล้านยูโร (ราว  29,328  ล้านบาท)

4. อาร์เซน่อล 

ค่าใช้จ่ายรวม : 1,120 ล้านยูโร (ราว   42,680  ล้านบาท)

รายรับรวม: 386 ล้านยูโร  (ราว  15,054  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 734 ล้านยูโร (ราว  28,626 ล้านบาท)

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ค่าใช้จ่ายรวม : 1,419 ล้านยูโร (ราว 55,341  ล้านบาท)

รายรับรวม: 753 ล้านยูโร(ราว 29,367  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 666 ล้านยูโร (ราว   25,974  ล้านบาท)

6. ลิเวอร์พูล 

ค่าใช้จ่ายรวม : 1,028 ล้านยูโร(ราว   40,092   ล้านบาท)

รายรับรวม: 491 ล้านยูโร (ราว 19,149  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 537 ล้านยูโร (ราว 20,943  ล้านบาท)

7. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 

ค่าใช้จ่ายรวม :886 ล้านยูโร(ราว 34,554  ล้านบาท)

รายรับรวม: 392 ล้านยูโร (ราว  15,288  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ  494 ล้านยูโร (ราว 19,266  ล้านบาท)

8. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ค่าใช้จ่ายรวม : 706 ล้านยูโร(ราว  27,534  ล้านบาท)

รายรับรวม: 253 ล้านยูโร(ราว 9,867  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ  453 ล้านยูโร (ราว   17,667  ล้านบาท)

9. แอสตัน วิลล่า 

ค่าใช้จ่ายรวม : 855 ล้านยูโร(ราว 33,345  ล้านบาท)

รายรับรวม: 493 ล้านยูโร (ราว  19,227  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ  362 ล้านยูโร (ราว 14,118  ล้านบาท)

10. ไบรท์ตัน 

ค่าใช้จ่ายรวม : 799 ล้านยูโร(ราว  31,161  ล้านบาท)

รายรับรวม: 498 ล้านยูโร(ราว 19,422  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 301 ล้านยูโร (ราว 11,739 ล้านบาท)

11. ฟูแล่ม 

ค่าใช้จ่ายรวม : 457 ล้านยูโร (ราว 17,823  ล้านบาท) 

รายรับรวม: 188 ล้านยูโร (ราว 7,332  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 269 ล้านยูโร (ราว 10,491 ล้านบาท)

12. น็อตติงแฮม ฟอเรสต์  

ค่าใช้จ่ายรวม : 487 ล้านยูโร (ราว  18,993  ล้านบาท)

รายรับรวม: 228 ล้านยูโร (ราว  8,892  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 259 ล้านยูโร (ราว 10,101 ล้านบาท)

13. คริสตัล พาเลซ  

ค่าใช้จ่ายรวม : 539 ล้านยูโร (ราว  21,021  ล้านบาท)

รายรับรวม: 361 ล้านยูโร (ราว  14,079 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 178 ล้านยูโร (ราว  6,942 ล้านบาท)

14. วูล์ฟส์ 

ค่าใช้จ่ายรวม : 783 ล้านยูโร (ราว 30,537  ล้านบาท)

รายรับรวม: 618 ล้านยูโร(ราว 24,102  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 165 ล้านยูโร (ราว  6,435 ล้านบาท)

15. บอร์นมัธ

ค่าใช้จ่ายรวม : 520 ล้านยูโร (ราว 20,280 ล้านบาท)

รายรับรวม: 361 ล้านยูโร  (ราว 14,079  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 159 ล้านยูโร  (ราว 6,201 ล้านบาท)

16. เบิร์นลี่ย์ 

ค่าใช้จ่ายรวม : 372 ล้านยูโร  (ราว 14,508 ล้านบาท)

รายรับรวม: 253 ล้านยูโร(ราว  9,867  ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 119 ล้านยูโร (ราว  4,641 ล้านบาท)

17. เบรนท์ฟอร์ด 

ค่าใช้จ่ายรวม : 342 ล้านยูโร (ราว  13,338 ล้านบาท)

รายรับรวม: 232 ล้านยูโร (ราว 9,048 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 110 ล้านยูโร (ราว  4,290  ล้านบาท)

18. เอฟเวอร์ตัน 

ค่าใช้จ่ายรวม :568 ล้านยูโร(ราว 22,152 ล้านบาท)

รายรับรวม: 460 ล้านยูโร (ราว 17,940 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : ขาดทุนสุทธิ 108 ล้านยูโร (ราว 4,212 ล้านบาท)

19. ลีดส์ ยูไนเต็ด  

ค่าใช้จ่ายรวม : 460 ล้านยูโร (ราว 17,940 ล้านบาท)

รายรับรวม: 354 ล้านยูโร (ราว 13,806 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ :  ขาดทุนสุทธิ 106 ล้านยูโร (ราว 4,134 ล้านบาท)

20. ซันเดอร์แลนด์

ค่าใช้จ่ายรวม : 58 ล้านยูโร(ราว  2,262 ล้านบาท)

รายรับรวม: 99 ล้านยูโร(ราว  3,861 ล้านบาท)

การใช้จ่ายสุทธิ : กำไรสุทธิ 41 ล้านยูโร(ราว  1,599 ล้านบาท)