เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ย้ายฟรีจากลิเวอร์พูลซบยักษ์ใหญ่ เรอัล มาดริด รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 240,000 ปอนด์ เซ็นยาว 6 ปี พร้อมโบนัสเซ็นสัญญากินเปล่าตัวเลข 7 หลัก
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะอำลาถิ่น แอนฟิลด์ หลังจบฤดูกาลนี้ ขณะที่สื่อทุกแห่งรายงานว่า เจ้าตัวเตรียมที่จะย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด แบบไม่มีค่าตัว
ด้าน ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวแวดวงลูกหนังคนดังชาวอิตาเลียน ก็ยืนยันแล้วว่า กองหลังวัย 26 ปี จะย้ายซบ เรอัล มาดริด อย่างแน่นอน
โรมาโน่ โพสต์ข้อความว่า “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไป เรอัล มาดริด, เฮียร์ วี โก! การตัดสินใจอำลา ลิเวอร์พูล ยืนยันแล้ว หลัง เทรนต์ บอกลาสโมสรหลังได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกสมัย เอกสารเตรียมพร้อมสำหรับ เทรนต์ เซ็นร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยสัญญา 5 ปี หลังตกลงด้วยวาจากันไปแล้ว”
ด้าน เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ รายงานว่า เทรนต์ จะเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด เป็นเวลา 6 ปี หรือจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2031 พร้อมรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 240,000 ปอนด์ (ประมาณ 10.56 ล้านบาท) รวมทั้งได้โบนัสค่าเซ็นกินเปล่าเป็นตัวเลข 7 หลักด้วย
สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด (สเปน: Real Madrid Club de Fútbol) เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศสเปน ตั้งอยู่ที่กรุงมาดริด ปัจจุบันเล่นอยู่ในลาลิกา ลีกสูงสุดของฟุตบอลสเปน ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1902 ชื่อ เรอัล เป็นสร้อยคำนำหน้าที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปนใน ค.ศ. 1920 ซึ่งมีความหมายว่า “ของกษัตริย์หรือของหลวง” และยังเป็นที่มาของมงกุฏซึ่งปรากฏในตราสัญลักษณ์ของสโมสร มีสนามเหย้าคือสนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริดซึ่งถูกใช้งานมาตั้งแต่ ค.ศ. 1947 ความจุ 85,000 ที่นั่ง สีประจำสโมสรคือสีขาว และเพลงประจำสโมสรคือ อาลามาดริดอีนาดามัส เรอัลมาดริดเป็นสโมสรที่มีสมาชิก (socios) เป็นเจ้าของ และเป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1902 ซึ่งแตกต่างกับสโมสรส่วนใหญ่
เรอัลมาดริดเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของทวีปยุโรป ในการแข่งขันภายในประเทศ เรอัลมาดริดชนะเลิศถ้วยรางวัล 71 รายการ[3] ประกอบด้วยสถิติชนะเลิศลาลิกา 36 สมัย, โกปาเดลเรย์ 20 สมัย, ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 13 สมัย รวมทั้งโกปาเอบาดัวร์เต และโกปาเดลาลิการายการละ 1 สมัย ในการแข่งขันระดับทวีปและระดับโลก พวกเขาชนะเลิศการแข่งขัน 35 รายการ ประกอบด้วยยูโรเปียนคัพ / ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 15 สมัย (สถิติสูงสุด), ยูฟ่าคัพ 2 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 6 สมัย (สถิติสูงสุด), อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 3 สมัย (สถิติสูงสุด) และ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 9 สมัย (สถิติสูงสุด)[4] เรอัลมาดริดยังเป็นสโมสรเดียวที่ชนะการแข่งขันยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน โดยทำได้ถึงสองครั้งใน ค.ศ. 1956–58 และ ค.ศ. 2016–18 โดยใน ค.ศ. 2017 เรอัลมาดริดเป็นสโมสรแรกที่ป้องกันแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาจากยูโรเปียนคัพ พวกเขายังเป็นสโมสรที่ลงแข่งขันมากที่สุด (55 ครั้ง) รวมทั้งครองสถิติชนะมากที่สุด, เสมอมากที่สุด และทำประตูมากที่สุดในรายการนี้ และใน ค.ศ. 2024 สโมสรชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 15 ซึ่งเป็นการชนะเลิศรายการนี้เป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 11 ฤดูกาลหลังสุด และกลายเป็นสโมสรแรกในห้าลีกใหญ่ของยุโรปที่ชนะเลิศถ้วยรางวัลครบ 100 ใบ[5] ความสำเร็จในครั้งนี้ได้รับการยกย่องโดยบันทึกสถิติโลกกินเนสส์[6]
เรอัลมาดริดเป็นหนึ่งในสามสโมสรผู้ร่วมก่อตั้งลาลิกาซึ่งไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งลีกใน ค.ศ. 1929 ร่วมกับอัตเลติกเดบิลบาโอ และ บาร์เซโลนา สโมสรมีคู่ปรับคือบาร์เซโลนา และ อัตเลติโกเดมาดริด โดยเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่เรียกว่า เอลกลาซิโก และ เดร์บิมาดริเลญโญ เรอัลมาดริดเริ่มครองความยิ่งใหญ่ในประเทศได้ตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการก่อตั้งลาลิกา และกลายเป็นทีมชั้นนำของวงการฟุตบอลยุโรปในช่วงทศวรรษ 1950 โดยชนะเลิศยูโรเปียนคัพ 5 สมัยติดต่อกัน รวมทั้งชนะเลิศลาลิกา 4 สมัย ต่อมา ในทศวรรษ 1960 สโมสรชนะเลิศลาลิกาได้ถึง 8 ครั้งใน 10 ฤดูกาล ด้วยผู้เล่นชั้นนำ ได้แก่ อัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน, แฟแร็นตส์ ปุชกาช, ปาโก เฆนโต และ เรมง โกปา ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลก[7][8] นับตั้งแต่ทศวรรษ 2000 (โดยเฉพาะช่วงระหว่าง ค.ศ. 2000–2006 และ 2009–2018) ภายใต้การบริหารทีมโดยโฟลเรนติโน เปเรซ สโมสรมีชื่อเสียงจากนโยบายการซื้อนักฟุตบอลระดับโลกซึ่งเรียกว่ากาลักติโกส อาทิ โรนัลโด, ซีเนดีน ซีดาน, เดวิด เบคแคม และ กาก้า[9] โดยใน ค.ศ. 2009 สโมสรได้เซ็นสัญญากับ คริสเตียโน โรนัลโด ด้วยค่าตัวสถิติโลกในขณะนั้นจำนวน 80 ล้านปอนด์ซึ่งกลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร[10][11][12] ในปัจจุบัน สโมสรใช้ผู้เล่นระดับโลกซึ่งอายุน้อยอย่าง วีนีซียุส ฌูนีโยร์, โรดรีกู, จูด เบลลิงงัม และกีลียาน อึมบาเป เป็นแกนหลัก[13]
เรอัลมาดริดเป็นหนึ่งในสโมสรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก[14] และมีจำนวนผู้ติดตามทางสื่อสังคมมากที่สุดในโลกตามผลสำรวจโดยศูนย์การศึกษาด้านกีฬานานาชาติ[15] รวมทั้งมีมูลค่าทีมสูงที่สุดในโลกจำนวน 6.6 พันล้านดอลลาร์ใน ค.ศ. 2024 และยังเป็นสโมสรแรกของโลกที่มีรายรับมากกว่า 1 พันล้านยูโร (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)[16] เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2000 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติประกาศให้เรอัลมาดริดเป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ 20[17] รวมทั้งได้รับการยกย่องเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในทวีปยุโรปโดยสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลนานาชาติในช่วงเวลาเดียวกัน เรอัลมาดริดถูกจัดอยู่ในอันดับ 1 ตามค่าสัมประสิทธิ์สโมสรฟุตบอลยุโรป และเป็นอันดับ 1 จากการจัดอันดับรวมใน 10 ฤดูกาลหลังสุด (ค.ศ. 2013–2023)[18] รวมทั้งอยู่ในอันดับ 1 จากการจัดอันดับโดยสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025