News ข่าวกีฬา บอลต่างประเทศ

ลิเวอร์พูล 2-2 อาร์เซน่อล : 5 ประเด็นร้อน เทรนต์โดนโห่-หงส์แผ่วครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูล-2-2-อาร์เซน่อล-siamsportth

ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 เกมพรีเมียร์ลีก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดนแฟนโห่หลังประกาศย้ายทีม ขณะที่ปืนใหญ่โชว์ใจสู้ไล่ตามตีเจ๊าแบบสุดมันส์

ลิเวอร์พูล 2-2 อาร์เซน่อล : 5 ประเด็นร้อน

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสจากแฟนบอลทีมรัก เมื่อโดนโห่ในเกมเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน “ปืนใหญ่” แสดงให้เห็นสปิริตชั้นยอดในครึ่งหลัง ส่วน อาร์เน่อ สล็อต กุนซือ “หงส์แดง” มีการบ้านกองใหญ่ในช่วงซัมเมอร์สำหรับการสร้างทีมเพื่อป้องกันแชมป์ลีกฤดูกาลหน้า 

1. เทรนต์ รับสภาพกับเสียงโห่

หลังจากที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการออกไปหาความท้าทายใหม่หลังจบฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่าสโมสรต้องเสียเขาไปแบบไม่มีค่าตัว เนื่องจากนักเตะหมดสัญญาพอดี

อาร์เน่อ สล็อต และเพื่อนร่วมทีมยอมรับการตัดสินใจของ “รองเทรนต์” แต่สำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” ต้องบอกว่าทำใจไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าสเกาเซอร์ขนานแท้ จะเลือกอำลาแอนฟิลด์แบบที่สโมสรไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลย

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโดนดร็อปเป็นตัวสำรอง เพราะ โค้ชอาร์เน่อ ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการคุมทีมโดยที่ไม่มี อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อีกต่อไป แต่ที่น่าเจ็บปวดสำหรับนักเตะก็คือเสียงโห่ก่อนเกม และตอนถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรอง 

อย่างไรก็ตามระหว่างเกมแฟนบอลหงส์แดงส่งเสียงปรบมือให้กับเขาตอนช่วงกำลังจะยิงฟรีคิก และในจังหวะเปิดบอลสวยๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงรัก เทรนต์ อยู่เสมอ แต่แค่อาจจะรู้สึกเจ็บปวดที่เด็กลูกหม้ออำลาทีมไปแบบชนิดที่สโมสรไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเท่านั้น 

ขณะที่ เทรนต์ ก็พร้อมยอมรับกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ แต่เจ้าตัวทำใจได้เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าเหล่าสเกาเซอร์ทุกคนไม่เคยลืมความสำเร็จที่เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับ ลิเวอร์พูล 

2. อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นหัวใจนักสู้

ฟอร์มครึ่งแรกของ อาร์เซน่อล อาจจะดูหวือหวาในช่วงต้นเกม แต่หลังจากนั้นพวกเขาโดน ลิเวอร์พูล กดดันอย่างต่อเนื่อง และเกือบเสียประตูหลายครั้งหลายหน จนสุดท้ายก็ทำนบแตกในที่สุด

“หงส์แดง” แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่รวดเร็ว และการจบสกอร์ที่เฉียบคม ตั้งแต่จังหวะได้ประตูแรกจากการเปิดบอลที่สุดคมกริบของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และการโหม่งที่สุดยอดของ โกดี้ คักโป

จากนั้นแค่นาทีกว่าๆ โม ซาลาห์ ประสานงานกับ โดมินิค โซโบซไล ที่ผ่านบอลถวายพานให้ หลุยส์ ดิอาซ พุ่งเข้าชาร์จแบบสบายๆ ส่งให้เจ้าบ้านนำห่าง 2-0 ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงคิดว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล คงจะดับซ่าทีมเยือนได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตามครึ่งหลัง อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นหัวใจนักสู้ และ มิเกล อาร์เตต้า แก้เกมได้ดี ทำให้พวกเขาสามารถไล่บี้กดดันเจ้าบ้านได้ตลอด และมาได้ประตูตีไข่แตกจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และตามด้วยประตูตีเสมอของ มิเกล เมรีโน่

จริงๆ แล้วพวกเขามีโอกาสได้ประตูที่สามหลายครั้ง และถ้าหากไม่โดนไล่ออกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย งานนี้บอกเลยว่า อาร์เซน่อล อาจมีเฮ ขนาดตอนที่เหลือ 10 คน พวกเขาเกือบได้ประตูชัยช่วยทดเจ็บ จากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดอการ์ด หลุดเข้าไปยิงแต่ดันยิงไม่ดีบอกออกข้างไปนิดเดียว 

เชื่อว่าเหล่า “เดอะ กูนเนอร์ส” คงคาดหวังที่จะเห็น อาร์เตต้า แอนด์ โค. สานต่อฟอร์มแบบนี้ และยกระดับผลงานในช่วงปรีซีซั่น เพื่อที่จะกลับมาลุ้นความสำเร็จอีกครั้งในฤดูกาลหน้า 

3. แบรดลี่ย์ ต้องยกระดับให้มากกว่านี้

การที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลือกที่จะโบกมือลา แอนฟิลด์ นั่นหมายความว่า โค้ชอาร์เน่อ ต้องเตรียมแผนสำหรับซีซั่นใหม่ โดยให้โอกาส คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ได้ลงเป็นตัวหลักตั้งแต่ตอนนี้

จะว่าไปแล้วสไตล์ของ กุนซือชาวดัตช์ มักใช้ฟูลแบ็กในการวิ่งทะลุทะลวงหรือประสานงานกับแนวรุกเพื่อเข้าไปสร้างความปั่นป่วนในแนวรับของคู่แข่ง แต่การที่เขามี “รองเทรนต์” ซึ่งมีความสามารถในการเปิดบอลที่แม่นยำ ทำให้เลือกที่จะใช้วิธีการเปิดบอลเข้าไปสร้างความอันตรายมากกว่า

กระนั้นในฤดูกาลหน้า “หงส์แดง” ไม่มี อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อีกแล้ว นั่นทำให้ นายใหญ่หัวใส คงจะนำแนวทางการเล่นที่ตนเองถนัดมาใช้กับทีม และพยายามให้ฟูลแบ็กเน้นการวิ่งกระชากมากกว่าเปิดบอลยาว 

สำหรับ แบรดลี่ย์ ต้องบอกว่าทำผลงานได้ดีในช่วงแรกๆ กับการเล่นสไตล์นี้ เพราะนักเตะโดดเด่นเรื่องการกระชากบอล และการทำชิ่งหนึ่งสองกับเพื่อนร่วมทีม แต่ยังขาดความแม่นยำ เพราะเมื่อโดนคู่แข่งตัดบอลได้ โอกาสที่จะทำให้ทีมตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายย่อมมีสูงมาก

ดังนั้น แบรดลี่ย์ จำเป็นต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นให้มากกว่านี้ และรักษามาตรฐานระดับสูงเอาไว้ ถ้าหากทำไม่ได้งานนี้ อาร์เน่อ คงต้องบอกว่าแบ็กขวาในอุดมคติ ซึ่งออปชั่นแรกก็คือ เจเรมี่ ฟริมปง ซึ่งสไตล์การเล่นเข้ารับระบบของ “บอสอาร์เน่อ” แน่นอน 

4. ครึ่งแรกดีครึ่งหลังดาวน์ 

มันคงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะบอกว่า “เป็นแชมป์แล้วปล่อยจอยได้” เพราะเกมพรีเมียร์ลีกทุกแมตช์โดยเฉพาะเล่นในบ้านมีความสำคัญมากๆ ดังนั้นควรจะต้องเน้นทุกเกมเพื่อให้เกียรติแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ทีมในสนาม

ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาเอาจริงมากๆ เกมนี้ โดยฟอร์มครึ่งแรกต้องบอกว่าเหนือกว่า อาร์เซน่อล และการได้ประตูนำไปก่อน 2-0 น่าจะทำให้ทีมเก็บชัยชนะแรกหลังคว้าแชมป์ แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น!

ครึ่งหลัง “หงส์แดง” ฟอร์มแผ่วไปดื้อๆ ขณะเดียวกันก็ต้องยกเครดิตให้ อาร์เซน่อล ที่ทำผลงานได้ดี และกดดันเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่องจากตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะเก็บชัยชนะในช่วง 10 นาทีสุดท้าย หลัง เมรีโน่ ได้สองใบเหลืองเป็นใบแดงไล่ออก

ช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเจ็บ พวกเขาได้ลุ้นประตูจากการยิงของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่ไม่ได้ประตูเพราะวีเออาร์เช็คว่า อิบราฮิม่า โกนาเต้ ทำฟาวล์ก่อน และเป็นการตัดสินที่ถูกต้องทุกประการ 

แน่นอนว่าผลเสมอทำให้งานเลี้ยงฉลองในแอนฟิลด์กร่อยไปนิด แต่ก็เข้าใจได้เพราะบางครั้งแรงกระตุ้นไม่ได้มีมากนัก จึงไม่มีความจำเป็นต้องเล่นแบบเสี่ยง แต่ก็ควรจะทำให้ดีกว่านี้ !!

5. เกมปิดซีซั่นที่แอนฟิลด์ต้องชนะ

ลิเวอร์พูล ยังมีเกมให้แก้ตัวในแอนฟิลด์อีกแมตช์นั่นก็คือเกมปิดซีซั่นต้อนรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ เพราะมันมีความสำคัญมากเพราะเป็นเกมที่ทีมจะได้รับโทรฟี่แชมป์หลังเสียงนกหวีดหมดเวลา จะว่าไปแล้ว “หงส์แดง” ฟอร์มไม่ค่อยดีนักหลังจากคว้าแชมป์โดยพวกเขาเริ่มด้วยการแพ้ เชลซี 1-3 จากนั้นก็เปิดบ้านโดน อาร์เซน่อล ไล่ตีเสมอ 2-2 แมตช์ต่อไปต้องไปเยือน ไบรท์ตัน 

ก่อนที่จะเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับ พาเลซ และแน่นอนว่า โค้ชอาร์เน่อ ต้องเน้นย้ำให้ลูกทีมเล่นแบบสุดกำลังเพื่อคว้าชัยชนะสำหรับเป็นของขวัญให้กับแฟนบอลหงส์แดงที่เข้ามาในสนามเพื่อเตรียมฉลองการชูโทรฟี่แชมป์ของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม 

สำหรับสามคะแนนในเกมปิดฤดูกาลถือว่ามีความหมายมากๆ เพราะนอกจากจะเป็นการฉลองแชมป์ที่สวยหรูแล้ว ยังเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยสำหรับทีมยุคใหม่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ลองนึกภาพเกมปิดฤดูกาลทีมคว้า 3 คะแนน จากนั้นก็จบภารกิจด้วยการเห็น ฟาน ไดค์ ชูโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีก งานนี้สาวก “เดอะ ค็อป” ทั่วโลกคงฟินไปอีกหลายสัปดาห์ 

ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsportth.com
Facebook : siamsportth

SiamSport TH - K

About Author

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *